วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

หนังสือน่าอ่านในการทำธุรกิจ MLM



พ่อจน
พ่อรวย
ความรักเงิน เป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้าย
การขาดเงิน เป็นบ่อเกิดแห่งความชั่วร้าย
คนรวยควรเสียภาษีมากๆ เพื่อช่วยคนจน
ภาษีทำโทษคนขยัน ให้รางวัลคนขี้เกียจ
เรียนมากๆ จะได้ทำงานกับบริษัทที่มั่นคง
เรียนมากๆ จะได้ซื้อบริษัทที่มั่นคง
พ่อไม่รวย เพราะพ่อมีลูก
พ่อต้องรวย เพราะพ่อมีลูก
ห้ามพูดเรื่องเงินตอนทานข้าว
ชอบคุยเรื่องเงินตอนทานข้าว
เรื่องเงินทองต้องปลอดภัยไว้ก่อน
ต้องรู้จักวิธีจัดการกับความเสี่ยง
บ้าน เป็นการลงทุนและทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุด
บ้าน เป็นหนี้สินที่ใหญ่ที่สุดและไม่ใช่การลงทุน
ชำระหนี้เป็นอันดับแรก
ชำระหนี้เป็นอันดับสุดท้าย
ประหยัดทุกบาททุกสตางค์เพื่อสะสมเงิน
ใช้ทุกบาททุกสตางค์เพื่อการลงทุน
สอนวิธีเขียนประวัติส่วนตัวอย่างไร จึงจะได้งานทำ
สอนวิธีเขียนแผนธุรกิจอย่างไร จึงจะสร้างงาน
ชาตินี้ ไม่มีวันรวยแน่
คนรวย เขาไม่ทำกันอย่างนั้นหรอก
เงิน ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
เงิน คืออำนาจ
เรียน เพื่อทำงานให้ได้เงินเดือนสูงๆ
เรียน เพื่อรู้วิธีใช้เงินทำงานให้เรา
พ่อ ไม่ทำงานเพื่อเงิน
เงิน ทำงานให้พ่อ


ตอนที่สอง บทเรียนที่ 1 : คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน

ผู้เขียนได้รู้จักกับพ่อของไมค์ และขอร้องให้สอนวิธีหาเงิน
“ ถ้าเธออยากทำงานเพื่อเงิน เธอไปเรียนเอาที่โรงเรียน แต่ถ้าอยากเรียนวิธีใช้เงินทำงานให้เรา ฉันจะสอน “
“ การเรียนรู้วิธีใช้เงินทำงาน เป็นวิชาที่ต้องเรียนกันชั่วชีวิต “
“ การขาดเงินนั้น แย่พอๆ กับการผูกติดกับเงินนั่นแหละ “
“ อย่าให้อารมณ์เป็นตัวกำหนดการกระทำ รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ แต่ต้องใช้สมองกำหนดการกระทำ “

ตัวอย่างการพูดจากอารมณ์

“ ต้องหางานทำให้ได้ ”
“ ฉันจะสอนให้เธอเป็นนาย ไม่ใช่เป็นทาสของเงิน ”
“ ที่สุดแล้วเราทุกคนเป็นลูกจ้าง แต่ในระดับที่แตกต่างกัน “
“ ฉันอยากให้เธอหลีกเลี่ยงกับดัก ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยความกลัวและความโลภ “
“ ถ้าเราควบคุมความต้องการได้ เราจะมีเวลาคิดไตร่ตรองมากขึ้น “
“ หลายคนตั้งตารอวันเงินเดือนออก รอวันเงินเดือนขึ้น เพราะความกลัวและความต้องการ “
“ เราควรมีชีวิตอยู่ด้วยความหวัง ความฝันและความสุข ไม่ใช่นอนก่ายหน้าผากกังวลว่าจะมีเงินให้ใช้ครบเดือนหรือไม่ “
“ ความเขลาไม่ใส่ใจเรื่องเงิน ทำให้เกิดความกลัวและความโลภ “
“ จำไว้ว่าการได้งานทำคือการแก้ปัญหาระยะสั้น ทุกคนคิดแค่วันเงินเดือนออก ปล่อยให้เงินมีอำนาจเหนือชีวิตพวกเขาจึงมีลักษณะคล้ายกันคือตื่นแต่เช้าไปทำงาน ไม่เคยหยุดคิดเลยว่า ‘มีวิธีอื่นที่ดีกว่ามั้ย’ “
ความคิดที่มาจากอารมณ์ที่ได้ยินบ่อยๆ
“ ทุกคนต้องทำงาน “
“ คนรวยขี้โกง “
“ ผมควรจะได้ขึ้นเงินเดือนมิฉะนั้นจะลาออก “
“ ฉันชอบงานนี้เพราะมั่นคง “
ความคิดที่ใช้สมอง
“ ฉันมองข้ามอะไรไปหรือเปล่า “

วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

เทพและเทพีอียิปต์


" อียิปต์ นครอันเป็นนิรันดร์ "
ดินแดนที่มีเรื่องราวลึกลับ และความเชื่อเกี่ยวกับเทพและเทพีกว่าหนึ่งพันองค์ประเทศที่นักเดินทางผู้นิยมท่องที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ต่างใฝ่ฝันที่จะไปเยือนสักครั้งในชีวิตมหาตำนานและนิทานปรัมปราที่เล่าขานผ่านชนชาวอียิปต์ในดินแดนซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ เป็นองค์ความรู้สำคัญที่ช่วยให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์อียิปต์มากขึ้นรวมถึงแนวคิดการมีชีวิตเป็นอมตะที่ทำให้เกิดความเชื่ออันเป็นเอกลักษณ์
ลองอ่านเรื่องราวของเทพ เทพี สัญลักษณ์ และมหาวิหารสำคัญในเล่มนี้แล้วจะพบว่าเสน่ห์ของอียิปต์ไม่ได้มีเพียงสถาปัตยกรรมมหัศจรรย์อย่างพีระมิดเท่านั้น

มรดกมรณะ (Morning, Noon, & Night)


มรดกมรณะ หรือ Morning, Noon & Night ของซิดนีย์ เชลดอน
เป็นเรื่องราวของมหาเศรษฐีแฮร์รี สแตนฟอร์ด ผู้ยิ่งใหญ่ในวงการธุรกิจของสหรัฐฯ เขามีลูกสามคนซึ่งล้วนแต่เกลียดชังพ่อผู้ใจร้ายต่อแม่และใจดำต่อลูกๆ แฮร์รีมีความสัมพันธ์กับครูพี่เลี้ยงของลูกๆจนเธอตั้งท้อง เป็นสาเหตุให้ภรรยาฆ่าตัวตาย ส่วนครูพี่เลี้ยงก็หนีไปจากบ้านและต่อมาได้คลอดลูกสาวชื่อจูเลีย หลังจากแฮร์รีเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา โดยตกจากเรือยอชต์ส่วนตัวขณะแล่นอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ลูกๆของเขาทั้งสามคนก็มาชุมนุมกันที่บ้านของตระกูลในบอสตันเพื่อฟังพินัยกรรม ในเวลาใกล้เคียงกันนั้นหญิงสาวสวยคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น โดยอ้างตัวว่าคือจูเลีย สแตนฟอร์ด ลูกสาวนอกสมรสของแฮร์รีแต่หลังจากผ่านการพิสูจน์ว่าเธอคือจูเลียตัวจริงเธอก็หายตัวไป หลังจากนั้นไม่นานก็มีหญิงสาวอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่บ้านสแตนฟอร์ดและอ้างตัวว่าเป็นจูเลีย สแตนฟอร์ด เช่นกันหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถูกปองร้าย ใครคือจูเลีย สแตนฟอร์ด ตัวจริงความลับเกี่ยวกับการเสียชีวิตของแฮร์รีคืออะไร และใครคือผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด คำตอบรออยู่ใน มรดกมรณะ ผลงานอีกเล่มของซิดนีย์ เชลดอน ผู้ไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

A House of Night : เคหาสน์รัตติกาล


A House of Night : เคหาสน์รัตติกาล
มันเป็นเหมือนที่โซอี้ เรดเบิร์ดรู้สึกอยู่ครามครันไม่มีผิด

โซ อี้ เรดเบิร์ด รู้ดีว่าเธอไม่เหมาะกับโลกของมนุษย์ สังคมของมนุษย์ ที่ที่แสนอึดอัดสำหรับเด็กสาววัยสิบหกปีผู้ขาดไร้ความรักความอบอุ่นจากครอบ ครัว และดูเหมือนจะไม่มีพื้นที่ใดอ้าแขนต้อนรับเธอนัก

กระทั่งวันที่เธอได้รับการ “ประทับรอย” จากผู้ล่า และได้เดินทางสู่ “เคหาสน์รัตติกาล” เพื่อเปิดโลกใบใหม่ซึ่งเธอไม่เคยรู้จัก

โลก ของราตรี มนตร์ตรา ทวยเทพ ความลึกลับ และอำนาจที่เธอค้นพบและต้องควบคุมมันในระหว่างการวิวัฒน์ เพื่อเปลี่ยนตัวเองจากมนุษย์ไปเป็นแวมไพร์เต็มตัว

ที่นั่น ...โซอี้ได้รู้ว่ารอยประทับของเธอไม่เหมือนใคร และอำนาจที่เธอได้จากองค์เทวีแห่งแวมไพร์นั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าที่วัยรุ่นคน หนึ่งจะมี ที่นั่น...เธอได้พบกับแวมไพร์หนุ่มสุดเซ็กซี่ผู้ทำให้โซอี้อึดอัดและออกจะ มันเขี้ยว

ที่นั่น...ก้าวแรกในชีวิตแวมไพร์ของเธอนั้นสุดแสน จะตื่นเต้นเร้าใจ โซอี้มี “สัมผัสแห่งนิวรณ์” ที่ทำให้ควบคุมธาตุทั้งห้าได้ เธอต้องต่อกรกับกลุ่มบุตรีแห่งรัตติกาล ที่ใช้อำนาจในทางที่ผิด และเรียนรู้ที่จะเป็น “ผู้นำ” ที่ยิ่งใหญ่ของเคหาสน์รัตติกาล

Review เล่ม 1 : รอยประทับ

"เส้น ทางแสน ลำบากสู่การเติบโตขั้นต่อไปถูกถ่ายทอดผ่านช่วงฉากสังคมแวมไพร์อันแปลกใหม่ และไม่เหมือนใคร ทั้งยังเป็นเรื่องราวที่เสกสรรค์ได้อย่างสนุกสนาน...ผู้อ่านจะติดหนังสือชุด นี้งอมแงม" - Romantic Times

"ตั้งแต่ วินาทีที่ฉันเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้ ฉันก็ติดหนึบอยู่กับมันทันที! เป็นมุมใหม่ของแวมไพร์ที่สุดยอดมากๆ! ประทับตรา ช่างร้อนแรง เร้นลับ และสนุกจริงๆ เยี่ยม!" - Gena Showalter ผู้เขียนวนิยาย Oh My Goth

"คาสต์ เล่นฉันอยู่หมัดตั้งแต่ย่อหน้าแรก ฉันหัวเราะพรืดและหัวเราะคิกๆคักๆตลอด แล้วก็ตะบี้ตะบันอ่านจนจบรวดเดียว" - MaryJanice Davidson ผู้เขียนนวนิยายชุด Undead

ทดลองอ่านบทที่ 1
http://www.amarinpocketbook.com/_upload/firstread/Marked-preread.pdf


Credit : http://www.amarinpocketbook.com




จินตนาการ ทำให้ “เจ้าหญิง” คนหนึ่งก้าวผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายในชีวิต เพราะเมื่อคนเราสามารถคิดจินตนาการ ก็หมายความว่าเรายังมีความหวัง และความหวังนั้นเอง จะหล่อเลี้ยงจิตใจไม่ให้ตกต่ำ หรือจ่อมจมอยู่ในความทุกข์เศร้า จนยากที่จะฉุดตัวเองขึ้นมาได้ ความหวัง ความฝัน และจินตนาการ ไม่ใช่แค่ให้มนุษย์อยู่รอด แต่รวมทั้งโลกของเราด้วยเจ้าหญิงน้อย เรื่องเริ่มต้นที่ ‘ซาร่า ครูว์’ เด็กหญิงน่ารัก นิสัยดี เข้าเรียนโรงเรียนประจำในประเทศอังกฤษ ตอนนั้นคุณครูดูแลซาร่าอย่างดี เพราะเธอเป็นลูกเศรษฐี ซาร่าชอบแต่งนิทานมาเล่าให้เพื่อนฟัง โดยมีเธอเป็นเจ้าหญิงในเรื่อง แต่แล้ววันหนึ่งก็มีข่าวร้ายว่าพ่อซาร่าเสียชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป ซาร่าโดนไล่ไปทำงานในครัว อดเรียนหนังสือเหมือนเพื่อน แต่เธอก็ยังคงจินตนาการต่อไป ว่าเธอเป็นเจ้าหญิงตกยาก ซาร่ายึดมั่นในความดีของตัวเอง ไม่เคยเคียดแค้นคุณครูที่เปลี่ยนไป ไม่เคยแสดงกิริยาหยาบคาย แล้ววันหนึ่งข้างๆ โรงเรียนก็มี ‘เพื่อนบ้าน’ ใหม่ชาวอินเดียย้ายมาอยู่ มาคอยดูแลซาร่าอย่างลับๆ และทำให้ชีวิตซาร่ากลับมาดี เป็นเจ้าหญิงน้อยๆ เหมือนเดิม


 
หนังสือนี้ได้ถ่ายทอดเรื่องราวให้ผู้อ่านเข้าใจว่า "กรรมเกิดจากอะไร" กรรมจริงๆ ในพุทธศาสนาก็ได้พูดไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า "กรรม" ก็คือการกระทำอันที่หนึ่งซึ่งเกิดการกระทำปัจจุบันชาติที่คุณทำเอา ไว้ ณ ปัจจุบันนี้แล้วหลังจากนั้น กรรมก็จะส่งผลต่อชีวิตของคุณต่อไป ถ้าคนเราอยากจะแก้กรรมนั้นทำได้ไหม ควรจะทำอย่างไร หนังสือเล่มนี้มีคำตอบ
.............................................................
บทที่ 1 กรรมคืออะไร?
บทที่ 2 ทำบุญอย่างไรให้ถึง (เจ้า) กรรม?
บทที่ 3 ใคร? คือเจ้ากรรมนายเวร
บทที่ 4 ทำบุญอย่างไรให้ได้บุญ?
บทที่ 5 การสะเดาะเคราะห์แก้กรรมได้จริงหรือไม่?
บทที่ 6 ทำบุญเพื่อส่งผลบุญ ผู้รับจะได้รับหรือไม่?
บทที่ 7 หมอดูเปลี่ยนแปลงกรรมได้หรือไม่?
บทที่ 8 จัดบ้านแบบคนมีบุญ : ทำอย่างไรให้เป็นมงคล
บทที่ 9 เคล็ดลับเสริมบุญบารมี ว่าด้วยบทสวดมนต์บทไหนที่ควรสวดในบ้าน
บทที่ 10 ทำไมชีวิตต้องติดกรรม

ประเภทของหนังสือ

ความสนใจของมวลชนที่มีต่อหนังสือได้มีมากขึ้นไปตามความเจริญของสังคมและบ้านเมือง จนมีคำกล่าวกันว่าหนังสือเป็นเครื่องวัดความเจริญของสังคมอย่างหนึ่ง ความสนใจได้แตกแขนงออกไปอย่างกว้างขวาง และสนใจในรายละเอียดลึกลงไปในแต่ละแขนง ทำให้เกิดการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ และทำให้เกิดหนังสือประเภทต่าง ๆ ขึ้นมาก แต่ละประเภทมีกลุ่มบุคคลที่สนใจแตกต่างกันไป ลักษณะการใช้งาน อายุการใช้งานก็แตกต่างกันไปด้วย วิธีการผลิตหนังสือแต่ละประเภทและวัสดุที่ใช้ผลิตก็ต้องแตกต่างกันออกไป ผู้ผลิตจะต้องหาวิธีการผลิตให้เหมาะสมกับหนังสือแต่ละประเภท การแบ่งประเภทของหนังสือมีวิธีแบ่งได้หลายอย่าง แต่เพื่อให้เห็นลักษณะการผลิตและรูปเล่มได้เด่นชัด หนังสืออาจแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ ๆ คือ วารสาร (Periodical) และหนังสือเล่ม (book) วารสาร (Periodical) เป็นหนังสือที่มีชื่อหนังสือคงที่ จัดพิมพ์ออกจำหน่ายจ่ายแจกตามลำดับเรื่อยไป เช่น หนังสือที่พิมพ์ออกมาทุกวันจะมีชื่อหนังสือชื่อเดียวกันตลอด ได้แก่ สยามรัฐ ไทยรัฐ เดลินิวส์ หรือหนังสือที่พิมพ์ออกมาทุกสัปดาห์ ทุกสองสัปดาห์ ทุกเดือน หรือทุกระยะเวลาต่าง ๆ มีชื่อหนังสือเหมือนกัน เช่น สตรีสาร วิทยาจารย์ หลักไท หนังสือเหล่านี้เป็นวารสาร หนังสือประเภทวารสารยังอาจแบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้เป็นหนังสือพิมพ์ (newspaper) นิตยสาร (magazine)







หนังสือพิมพ์ (newspaper) เป็นหนังสือที่มีวัตถุประสงค์หลักในการให้ข่าวสารปัจจุบันแก่ผู้อ่าน ส่วนนิตยสารนั้นมุ่งที่จะให้ความรู้ความบันเทิงเป็นสิ่งสำคัญ การที่วัตถุประสงค์ในการจัดทำแตกต่างกัน ลักษณะและการใช้งานของหนังสือและลักษณะรูปร่างของหนังสือจึงย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย จะเห็นว่าหนังสือพิมพ์นั้นพิมพ์บนกระดาษแผ่นใหญ่เรียงซ้อนกัน พับเป็นเล่มโดยไม่เย็บเล่มและไม่มีปก ส่วนนิตยสารนั้นมักมีปกที่พิมพ์สีสันสวยงาม เย็บเป็นเล่มและเจียนเล่มเรียบร้อย ขนาดของเล่มเล็กกว่าหนังสือพิมพ์ การที่หนังสือประเภทใดจะมีรูปเล่มและขนาดอย่างใดย่อมแล้วแต่ลักษณะและวัตถุประสงค์การใช้งานของหนังสือเล่มนั้น ๆ เป็นสำคัญ รูปเล่มและขนาดเล่มจะเป็นตัวกำหนดเครื่องจักรเครื่องมือเครื่องใช้ในการผลิต ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตด้วย จึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงเชื่อมโยงกันไปทั้งสิ้น
นิตยสาร (magazine) สำหรับนิตยสารนั้น ผู้ซื้อจะมีความพิถีพิถันมากกว่าซื้อหนังสือพิมพ์ นิตยสารจึงมีปกที่พิมพ์ภาพสวยงาม อายุการใช้งานมีระยะเวลานานกว่าหนังสือพิมพ์ซึ่งจะมีอายุอย่างน้อยเท่ากับระยะเวลาออกนิตยสารนั้น ๆ นิตยสารจึงยังคงคุณค่านานกว่าหนังสือพิมพ์ แม้เมื่อพ้นเวลาใช้งานแล้วก็ยังพอมีราคาอยู่บ้าง


หนังสือเล่ม (book)
เป็นประเภทใหญ่ของหนังสืออีกประเภทหนึ่ง อาจ แบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้หลายวิธี คือแบ่งตามลักษณะของผู้อ่าน เช่น หนังสือเด็ก หนังสือผู้ใหญ่หรือแบ่งตามเนื้อหาสาระ เช่น หนังสือสารคดี หนังสือบันเทิงคดี ซึ่งแต่ละประเภทแบ่งย่อยออกไปได้อีก เช่น สารคดี อาจแบ่งเป็นแบบเรียนในระดับการศึกษาต่าง ๆ คู่มือครู แบบฝึกหัดตำราทางวิชาการ หนังสืออ้างอิง บันเทิงคดีก็แบ่งเป็น นวนิยาย กวีนิพนธ์ หนังสือเด็กก็อาจแยกออกเป็น หนังสือภาพ หนังสือการ์ตูน นิยาย หนังสือแต่ละประเภทก็มีลักษณะรูปเล่มเฉพาะที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานของหนังสือประเภทนั้น ๆ การผลิตหนังสือแต่ละประเภทจึงมีวิธีการและอุปกรณ์ที่เหมาะสมแก่การผลิตหนังสือประเภทนั้น ๆ ซึ่งก็ย่อมแตกต่างกันออกไปแต่ละประเภท
หนังสืออ้างอิง เป็นหนังสือที่มีลักษณะพิเศษอีกแบบหนึ่งที่ผู้อ่านจะเลือกอ่านค้นคว้าเอาเฉพาะเรื่องที่ต้องการ เช่น หนังสือพจนานุกรมจากภาษาหนึ่งไปอีกภาษาหนึ่ง ผู้ซื้อจะค้นดูศัพท์เฉพาะคำที่ต้องการทราบความหมายโดยจะเปิดดูหน้าและตำแหน่งตรงที่มีศัพท์ที่ต้องการจะค้น แล้วอ่านดูว่ามีคำแปลว่าอย่างใด เข้าใจแล้วก็ปิดเล่ม หนังสือเล่มหนึ่ง ๆ ได้อ่านจริง ๆ ไม่กี่บรรทัดไม่กี่หน้า หากเป็นพจนานุกรมฉบับกระเป๋าก็จะต้องผลิตให้มีขนาดเล็กสามารถพกติดตัวไปได้สะดวก สามารถค้นดูศัพท์ได้ทุกเวลาที่ต้องการ ขนาดของเล่มหนังสือจะเป็นสิ่งกำหนดตัวพิมพ์ ความหนาของแผ่นกระดาษและชนิดของกระดาษที่จะพิมพ์ เพื่อให้หนังสือมีขนาดพอเหมาะที่จะบรรจุศัพท์ต่าง ๆ ลงในเล่มให้ครอบคลุมได้กว้างขวางที่ต้องการ และให้ได้ขนาดกว้างยาวและหนาพอที่จะพกในกระเป๋าเสื้อของผู้อ่านได้